วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

เพชรพระอุมา 6

B11บุญคำเสนอให้รพินทร์ดับอาถรรพณ์ด้วยของสกปรกที่เสือหินแต่แรกที่พบแล้ว เพราะสำเหนียกได้ในความผิดปกติ  แต่รพินทร์ไม่เชื่อ ระหว่างการตามแงซายกับกองกอย ทุกคนเห็นตรงกันว่าเจ้าเสือพยายามสกัดพวกเข้า หรือทำให้พวกเขาออกนอกเส้นทาง แต่เชษฐายืนยันให้ตามรอยแงซาย ดารินเป็นคนเดียวที่มีอาการผิดปกติไปมากช่วงนี้ นอกจากการโดนเจ้าเสือโคร่งเบียดให้หินตกจากที่สูงใส่คณะ รอบนี้เจอไฟป่า ชาวคณะหลบเข้าป่า แต่ปรากฏว่าช้างอีกโขลงก็จะเข้าหลบภัย เลยเกิดการแย่งชิงพื้นที่  ตอนนี้เริ่มหลงทาง กระจายกันเป็นกลุ่ม ๆ รพินทร์ตกลงมาตามลำน้ำ และมาเจอดารินกำลังเอาตัวรอดจากแมงมุมยักษ์ ช่วยเหลือกันได้ก็หาทางไปพบคนอื่น ๆ ระหว่างทางดารินเป็นตะคริว รพินทร์ต้องถอดเสื้อผ้า และเอาตัวดารินย่างไฟ คืนนั้นระหว่างที่รพินทร์หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ผีดิบมันตรัยมาสะกดจิตดาริน แต่รพินทร์ช่วยไว้ได้ทัน  ช่วยได้รพินทร์เลยให้ดารินห้อยเครื่องลางของขลังที่เขาพกประจำไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
ฝ่ายเชษฐา โชคดีเจอกับชาวคณะลูกหาบทั้งหมด
ส่วนไชยยันต์หลงไปกับมาเรีย  ไม่รู้ว่าเจตนาหรือไม่ แต่มาเรียชอบปลีกตัวไปอาบน้ำ และไชยันต์ตามไปเจอด้วยความเป็นห่วง แต่กลายเป็นว่าโดนด่าว่าไอ้งั่ง นายทหารปืนโตโดนด่าเลยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เกิดบทอัศจรรย์ท้องน้ำสั่นสะเทือน สมใจ ที่อยากได้มาเรียมานาน แต่มาเรียไม่รู้ว่าคิดอย่างไร แต่นายทหารของบุญคำก็รักและ ติดใจมาเรียเอามาก ๆ
B12
ไชยันต์กับมาเรีย ตื่นขึ้นมา เจอการโจมตีของค้างคาวยักษ์ แต่พอยิงโดน กลายเป็นเสียงกรีดร้องเสียงเหมือนเสียงคน งงกันไปหมดจนหลงไปถึงทางเข้านิทรานคร และเข้าไปติดในถ้ำที่เป็นสุสานผีดิบ แต่ไม่ได้ฟื้นชีพมาทำอันตรายทั้งสองคน เมื่อการโจมตีสิ้นสุดลง มาเรียเล่าให้ฟังว่ามีคนแต่งตัวเป็นขุนศึกมาปลุกให้เธอรู้ว่ามีอันตรายให้ตื่นและพบกับการโจมตีของเจ้าค้างคาว แต่พอได้สติตรวจอีกครั้งพบว่ารอยเท้านั้นเป็นของแงซาย ในขณะที่เชื่อมโยงได้ว่าค้างคางผีที่โดนยิงมีความสัมพันธ์กับผีดิบมันตรัย ที่นี้สองคนเลยช่วยกันประติดประต่อเรื่องที่รับฟังมาทั้งหมด และออกตามล่าค้างคางผีต่อไป เพราะยิงแผลใหญ่ไว้แล้ว ตามรอยเลือดที่มีรอยเท้าผีดิบอยู่ด้วยเข้าไปในถ้ำในที่สุดสองคนไปเจอไฟเย็นสีม่วงไม่มีความร้อน และสันนิษฐานดูจากรอยเลือดที่หายไป มาเรียเชื่อว่าเป็นไฟที่ชุบชีวิตได้ จนแทบจะกระโดดลงไปในกองไฟเพื่อให้มีชีวิตที่เป็นอมตะเหมือนในนิยายฝรั่งที่เคยอ่าน แต่ห้ามไว้ ระหว่างที่คุยกันอยู่เจ้าผีดิบมาล่อให้ตามแต่กองกอยมาห้ามไม่ให้ตามไป คืนนั้นมาเรียปวดท้องเป็นเมนส์อีกครั้ง ได้แต่ช่วยเผาหินร้อน ๆ มาวางให้ และวันนั้นสองคนไปทำ BBQ บนหลังงู งูพลิกสองคนเลยเห็นกำแพงเมืองโบราณแล้วเดินทางต่อจนเข้าไปในถ้ำ ในถ้ำสองคนล้อกันเล่นเรื่องจับปิ้ง สนุกสนาน แถมมาเรียยังแกล้งเอาใบโพธิ์รูปสามเหลี่ยมมาแปะหน้าอีก บอกว่าคนไทยถือ แบบนี้ถือว่าจะซวย สุดท้ายสองคนรู้ตัวว่าติดกับอยู่ในสุสาน เพราะเห็นซากมัมมี่เต็มไปหมด อายุนานแล้ว จนมีหินงอก หินย้อยที่ตัวซาก สุดท้ายรู้ตัวว่าโดนก้อนหินใหญ่ปิดทางออก สำรวจพื้นที่แล้วก็เห็นแต่รูที่พอมีอากาศหายใจ สองคนอยู่ในวงแขนของกันและกัน และเริ่มท้อแท้  จนกลุ่มรพินทร์ที่เจอกับเชษฐาแล้วมาช่วยไว้ได้ในที่สุด

ข้างฝ่ายดารินกับรพินทร์หลงป่าอยู่ด้วยกัน  ระหว่างนั้นก็เห็นหลังแงซาย ดารินจะยิง แต่รพินทร์เตือนว่าอย่ายิงโดยที่ไม่เห็นเป้า แต่พบว่าเป็นแงซายที่มาลับ ๆ ล่อ ๆ ให้ตามไป ตามไปเจอโขลงช้างที่รพินทร์สามารถใช้กระแสจิต ว่าไม่มีเวรต่อกันให้แยกกันไป ดารินแว่วได้ยินเสียงคน กู่ไปกู่มาตามเสียงไปเจอบุญคำหนีช้างขึ้นไปบนต้นไม้สูง มีทอยของแงซอยวางอยู่ให้รพินทร์ตอกขึ้นไปรับตาคำลงมา พอลงมาได้บุญคำเล่าเรื่องแงซายกับบอกว่าผีหลอกทั้งคืนเห็นเป็นเหมือนเมืองอะไรสักอย่างผู้คนเดินกันพลุกพล่านเต็มไปหมด หลังจากนั้นพอจะหาทางว่าจะไปทางไหน ตาคำก็บอกมาว่าให้ไปทางที่แงซายมายืนโชว์ ทั้งสามไปตามทางที่เห็นแงซายนำ จนไปถึงจุดที่พบว่างูใหญ่พลิกตัว ที่ตาคำบอกว่างูจ้าวเปิดทางให้แล้ว ที่นั่นตามคำเจอสิ่งที่ตามหามานานคือแผ่นผ้าอนามัยของผู้หญิง เลยห่อเก็บไว้อย่างดี และตอนนั้นดารินรู้แล้วว่าตาคำเห็นว่าจะแก้อาถรรพ์ณต้องใช้เมนส์ผู้หญิงเป็นกระษัย ดารินคดว่าน่าลองถ้ามีโอกาส และทั้งสองคนมั่นใจแล้วที่จะตามรอยกับมาเรียไป รวมทั้งเห็นรอยเท้าเสือด้วย ระหว่างทางดารินอดถามรพินทร์ไม่ได้ว่าใครเป็นคนเก็บแพ็ดไป และถ้าไม่มีบุญคำรพินทร์จะเก็บมั้ย คำตอบคือครูบาอาจารย์ไม่ได้สอนไว้
คณะรพินทร์ต้องต่อสู้กับโคตรตะขาบยักษ์อีกสองตัว แต่เก็บได้หมดไม่มีใครเป็นอะไรไปอีก ระหว่างการพักคืนหนึ่งดารินหลับไปแล้วแต่รพินทร์กับบุญคำเห็นหญิงสาวสวยมากวักมือเรียก หลอกให้ออกไปตาคำไม่ให้รพินทร์ตามออกไป แต่รพินทร์ให้ตาคำเอาผ้าซับประจำเดือนทางปลายไม้ที่เขาเหลาขึ้นมา พอจังหวะที่ค้างคางยักษ์โผล่ออกมารพินทร์แทงด้วยไม้ทาเมนส์ เสียงกรีดร้องโหยหวน และเสียงที่ดารินได้ยินเป็นว่า วรมันต์ช่วยข้าด้วย ทรมานเหลือเกิน แต่รพินทร์ได้ยินว่าไฟของเจ้าช่วยข้าไม่ได้แล้ว มันตรัยช่วยข้าด้วย บุญคำไม่ได้ยินอะไรเลย ดารินสงสัยว่าค้างคางผีน่าจะตกอยู่ในอาคมของผีดิบ
การเดินทางของรพินทร์ ดาริน และบุญคำดำเนินต่อไป ระหว่างทางบางวันแงซายก็นำอาหารมาวางไว้ให้ และเริ่มแกะรอยเชษฐา พร้อมพรานอื่นๆ ได้ ทำให้ดารินดีใจว่าคณะไม่มีใครเสียชีวิต เพียงแต่ว่าจะพบกันเมื่อไร คืนหนึ่งดารินฝันไปว่าขุนพลวรมันต์มาหา บอกว่าให้ไปถอนกริชที่ปักอยู่ที่คัมภีร์ออก ดารินเล่าความฝันให้รพินทร์กับตาคำฟัง หลังการตรวจพื้นที่โดยรอบรพินทร์พบว่ามีรอยเท้าแงซายและยังมีรอยเท้ากองกอยอีกหลายรอย ไม่ใช่ฝันปกติแล้ว ตอนนี้รพินทร์ ดาริน ตาคำสามารถเข้าไปถึงพื้นที่ที่สภาพเคยเป็นโถงใหญ่ นอกเหนือจากนั้นยังพบโลงแก้วบรรจุร่างหญิงงาม แต่น่าประหลาดว่ามีไม้ปักเสียบคาอกอยู่ ฉะนั้นไม่มีทางเป็นอื่นเลย นางคือเจ้าค้างคาวผีนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น