รพินทร์กับดารินต่อว่ากันยังไม่ทันไร ช้างลูก แม่ก็โผล่ออกมา ดารินตกใจวิ่งตัวเปลือยเข้าหารพินทร์ รอบนั้นรพินทร์ไม่ได้ยิงเพราะช้างแม่ ลูก เปลี่ยนเส้นทางซะก่อน ดารินอายรพินทร์ไปอีกนานแต่รพินทร์ก็ไม่ได้เสียมารยาทอะไร บ่ายวันนั้นทุกคนแยกกันไปล่าสัตว์ รพินทร์ไปกับ ดารินไปกับตาคำ ที่ไม่ได้ยิงอะไรกันเลย เพราะดารินห้ามไว้ เพราะสงสารสัตว์ทำให้รพินทร์ยิ่งนิยมดารินมากขึ้น รอบนี้มีเชษฐาเท่านั้นที่ยิงกระทิงตัวใหญ่ที่ไชยยันต์ตามล่าได้ ค่ำมาทุกคนกำลังกินอาหารอยู่แต่ปรากฏว่าเจ้ากุดเข้ามาลากลูกหาบไปคนนึง เพราะเจ้าสองคนลูกหาบไม่ทำตามคำสั่ง แยกตัวไปล่าสัตว์นอกพื้นที่พักแรม คืนนั้นผลัดแรกรพินทร์กับเชษฐาเฝ้าศพ เพื่อรอจังหวะที่เจ้ากุดจะมากินเหยื่อ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมีแต่โขลงช้างที่เข้าใจว่าเป็นกลุ่มเจ้าแหว่งมาใกล้ที่ซุ่ม ผลัดต่อไปเป็นผลัดไชยยันต์ ดาริน เกิด รอบนี้ก็ไม่มีอะไร ผลัดต่อไปมีแงซาย รพินทร์ เชษฐา ดักซุ่ม ด้วยอุบายของแงซายที่ว่าเจ้ากุดอาจจำกลิ่นพรานของรพินทร์ได้ ให้รพินทร์แยกตัวไปจากการดักซุ่ม และจริง เจ้ากุดเข้าเล่นงานเหยื่อแต่ตกเป็นเป้ากระสุนของเชษฐา แต่ไม่ถึงที่สำคัญ สุดท้ายเจ้ากุดหนีไปกบดานในโพรงถ้ำ รพินทร์ต้องเข้าไปยิงในโพรง และสามารถจัดการกับเจ้ากุดได้สำเร็จ ท่ามกลางความสบายใจของทุกฝ่าย การล่าเจ้ากุดก็สำเร็จลงอีกครั้งด้วยอุบายของแงซาย เส้นทางต่อไปคือโป่งกระทิง (จุดที่หนานอิน และชด ทิ้งเกวียนออกเดินป่า) โดยนัดเจอกันที่โป่งกระทิง โดยตาคำเอหนังสือกลับไปที่หนองน้ำแห้ง เพราะเจ้ากุดมีคดีกับชาวบ้านเยอะมาก
รอบนี้เป็นเริ่มกล่าวถึงโขลงช้างที่มีเจ้าแหว่งเป็นหัวหน้า เริ่มเข้ามากวนคณะเชษฐา ขณะที่การเดินทางเริ่มยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ ต้องเดินนาย รพินทร์แนะนำเหล้าโรงผสมเลือดค่างให้ไชยยันต์ ในขณะที่เชษฐารู้กิตติศัพท์ดีอยู่แล้ว ขอแบ่งไป คืนนั้นดารินไม่จัดยาให้สองชายหนุ่ม รวมทั้งรพินทร์ก็ไม่ได้รับยาประจำวันไปด้วย เพราะได้ยาวิเศษแล้ว คืนนั้นดารินนอนไม่หลับเหมือนเดิม มาเจอทีมรพินทร์กินซุปสันวัวแดงอยู่ พอดารินกิน รพินทร์ก็แกล้งบอกว่าเป็นซุปหางเสือดาว จนดารินแทบจะอาเจียน แต่ก็ไปคนดูในภาชนะต้ม ก็พบว่าเป็นซุปสันวัวแดงจริง คืนนั้นมีการล่าเม่น ที่มีเนื้อกินแล้วเหมือนเป็ด รพินทร์ส่องไฟให้ดารินยิงเม่นสำเร็จ คืนนั้นจันพูดทำนองว่าดารินสวยมาก แต่รพินทร์ ยังไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะผู้หญิงจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางที่ยากลำบาก
คืนหนึ่งรพินทร์พบว่าแงซายหายไป แต่ปรากฏว่าแงซายสำเหนียกว่าโขลงช้างที่มีกลิ่นคลุกซากใบไม้มาป้วนเปี้ยนบริเวณแค้มป์ นอกเหนือจากมีเสือสองตัวมาป้วนเปี้ยน ในการเดินป่าล่ากระทิงครั้งนี้ แยกเป็นสองชุด ชุดรพินทร์ ดาริน และแงซาย แยกกันเดินกับกลุ่มเชษฐา แต่กลายเป็นว่า แงซายแยกกลุ่มไปเพราะมีความเห็นไม่ตรงกับรพินทร์ในการตามล่าสัตว์ และรพินทร์มาพบว่าเสือตามรอยแงซายไปอีกที รอบนี้ รพินทร์กับดารินช่วยชีวิตแงซายได้อย่างหวุดหวิด แต่กระทิงเตลิดไปหมดเพราะเสียงปืนลั่นป่าของรพินทร์กับดาริน วันนี้บุญคำกลับมาพร้อมกับข่าวร้ายว่า ลูกหาบที่ไปหนองน้ำแห้งด้วยกัน ตายแล้วด้วยฝีมือของเจ้าแหว่ง โดยที่ตัวเขาหลบเข้าไปอยู่ในดงหนาม สุดท้ายดารินเย็บให้ 22 เข็ม คืนนั้นพักผ่อนกันตามปกติแต่ปรากฏว่าเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของดารินทำให้ไปอาบน้ำโดยมีเงาของเจ้าหล่อนทาบกับกระโจม ที่พอดีรพินทร์เห็นเข้า แต่ตะโกนเตือนอะไรไม่ได้ เสร็จทุกเรื่องพอมีโอกาสเลยเตือนให้ดารินทราบ และสุดท้ายโดนตบไปทีนึง และคืนนั้นแงซายเริ่มกังวลเรื่องการตามล่าเจ้าแหว่งเพราะจะทำให้การเดินทางไปปลายทางคือเทือกเขาพระศิวะช้าไปอีก แต่เป็นความประสงค์ของนายจ้างที่จะล่าเจ้าแหว่ง กลางดึกทุกคนตื่นขึ้นมาด้วยเสียงปืนที่ดารินยิงงูสามเหลี่ยมที่บุกเข้าไปในที่นอนของกลุ่มเจ้านาย เช้ามืดวันนั้นโขลงช้างเจ้าแหว่งบุก สู้กันไปรอบนึง วันนี้มีโปรแกรมนั่งห้างยิงสัตว์ การเดินทางช่วงแรกยังไม่เร่งการเดินทางมากนัก รพินทร์จัดให้คณะนายจ้างขึ้นนั่งห้างเพื่อดักยิงสัตว์ โดยเขาให้ลูกทีมไปสร้างห้างไว้ สามจุด ซึ่งสรุปกันว่า พวกเขาสามคนแยกกันไป เชษฐาให้ดารินอยู่ในความดูแลของรพินทร์ ส่วนเขากับไชยยันต์ก็แยกกันไป กับพรานลูกน้องของรพินทร์ ตามที่เห็นสมควร คืนนั้นเอง ทั้งสองคนก็ทะเลาะกันไป คุยกันตลอดคืน ทำให้ดารินทราบว่ารพินทร์ผ่านการศึกษาจากต่างประเทศทั้งอเมริกา และอังกฤษนอกเหนือจากที่เยอรมันที่ทราบมาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนรพินทร์ก็ถามประวัติพบว่าดารินยังไม่มีแฟน ตอนดึกมีผึ้งมาไต่ในเสื้อดาริน ทำให้ดารินขยะแขยง เปิดหน้าอกเสื้อให้รพินทร์เขี่ยผึ้งให้ คืนนั้นทั้งสองคนก็สามารถฆ่าสัตว์ได้สำเร็จ โดยฝีมือยิงของดารินที่รพินทร์แนะนำวิธีการยิงอย่างถูกวิธีให้ ช่วงท้ายของการนั่งห้างปรากฏว่าดารินโดนอาถรรพ์ณป่า ทำให้รพินทร์ต้องแนะนำให้สวดมนต์ ขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในป่า และทำให้ดารินสงบไปในที่สุด เช้ามาทุกคนมาเจอกันก็เล่าประสบการณ์การนั่งห้างของแต่ละทีมให้ฟังกันเป็นที่สนุกสนาน แต่ปัญหาตรงนี้มาอยู่ที่ไชยยันต์กลัวเกินไปจนทำให้ยิงกระทิงตัวลูกตาย และตัวแม่บาดเจ็บสาหัส ซึ่งอาจแว้งมาทำอันตรายชาวคณะได้ เป็นว่ารพินทร์กับไชยยันต์ตามไปเก็บกระทิงบาดเจ็บ แต่ระหว่างทางกลับพบว่ากระทิงบาดเจ็บโดนเสือสองตัวรุมทำร้าย ทำให้รพินทร์ตัดสินใจช่วยกระทิงบาดเจ็บ แต่ปรากฏว่ากระทิงเจ็บพุ่งเข้าทำร้ายรพินทร์ จนหมดสติดีที่ไชยยันต์ ได้สติและช่วยชีวิตรพินทร์ไว้ได้ เพื่อให้รพินทร์ได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุดทั้งสองคนตัดสินใจเดินทางกลับแค้มป์ และถึงที่พักประมาณเที่ยงคืน โดยที่ทุกคนที่แค้มป์ก็นอนกันไม่หลับ หลังทำแผลเสร็จ รพินทร์คุยกับแงซายถึงเขาพระศิวะ ทำให้ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับชด ประชากรอีกเรื่องคือเขาตามเข้าไปในนรกดำ แล้วแต่ต้องถอยออกมาเพราะโดนงูพิษกัด
ความนัยในการเดินทางครั้งนี้ แงซายต้องอาศัยรพินทร์เพื่อเดินทางสู่มรกตนคร ซึ่งเป็นนครที่มีอยู่จริง และเขาคือมกุฎราชกุมาร ในขณะที่รพินทร์ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าชด ประชากรตายแล้ว เพื่อให้คณะตามหายกเลิกการเดินทาง
เช้าวันต่อมารพินทร์ออกเดินสำรวจรอบที่พักเหมือนเดิม เพราะรับข่าวว่าเจ้าแหว่งบุกทำลายหมู่บ้านกะเหรี่ยง ฆ่าพรานนำทางฝรั่งสองคนตาย วันนั้นเชษฐาไปกับรพินทร์ เข้าหมู่บ้านกะเหรี่ยงระหว่างเจองาช้างกำจัด _ งาช้างที่หักคาอยู่ในเนื้อไม้ ระหว่างเดินทางกลับแค้มป์ที่พักได้ยินเสียงปืนดังจากแค้มป์ เพราะว่าโขลงช้างบุกเข้าแค้มป์ เต้นท์ที่พักระเนระนาด ทุกคนวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น เหตุการณ์ครั้งนี้แงซายหยุดช้างได้ในระยะเผาขน อาศัยเวลาค่ำรพินทร์ ให้แงซายเล่าเรื่องที่เคยเข้าไปในนรกดำ และเคยได้ข่าวชดประชากรให้ชาวคณะฟัง
B3 หารือกันมาถึงว่าทีมชด ประชากรต้องมีแผนที่อะไรนอกเหนือจาก ช่วงท้ายที่รพินทร์ส่งให้ที่มีความว่าไปถึง...แล้วเหนือขึ้นไปจะมีทางเรียบเดินสามวันถึงมรกตนคร อันเป็นแหล่งเพชรพระอุมา คืนนั้นเป็นคืนแรกที่รพินทร์จับไข้ นอกเหนือจากที่แผลบาดเจ็บจากกระทิง ที่เขาปฏิเสธที่จะรับยาจากดาริน ระหว่างที่กำลังจับไข้ ที่แงซายทราบเข้าก็ตามดารินมาช่วยรักษาพยาบาล จนเหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยดี คืนนั้นดารินให้ผ้าห่มรพินทร์ แต่รพินทร์กลับเก็บไว้ไม่กล้าใช้ และเอาไปให้กะเหรี่ยงที่หมู่บ้านเฉยเลยทำให้ดารินไม่พอใจนิดหน่อย คืนนั้นก่อนที่รพินทร์จะหลับไปเพราะพิษไข้และยานอนหลับ แงซายก็บอกว่าคืนนี้เงียบผิดปกติ ไม่อยากนอนเกรงว่าถ้านอนจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก จริงคืนนั้นมีเหตุการณ์ประหลาด ทุกคนได้กลิ่นประหลาดหอมเอียนๆ ส่วนดารินตื่นขึ้นมากลางดึกเห็นแสงวับ ๆ วาบ ๆ แต่ไม่สามารถบอกใครได้ว่าตัวเองเห็นอะไร จนเช้ามาถึงได้พบว่ามีลูกหาบคนนึงนอนตายตัวแข็งไม่มีบาดแผลที่ใดทั้งสิ้น สอบถามกันไปมา สรุปได้ว่าตัวที่เข้ามาทำร้ายลูกหาบน่าจะเป็นโขมดดง ที่แงซายเคยได้ยินมาก่อน และมาเทียบกับสิ่งที่ทุกคนรู้ เห็นในคืนวันนี้ เพราะเชษฐาสังเกตเห็นว่าที่ศพมีรอยเจาะ ดูดเลือดออกไป ทุกคนกลัวกันว่าเจ้าโขมดดงจะมาฆ่าพวกเขาอีกคืนละคน การเดินทางต่อมาคณะของเชษฐาก็พบกับความร้ายการของลิงที่มีปริมาณเยอะมาก ๆ มีจ่าฝูงหลายตัว รพินทร์ทำใจดีสู้ เดินเข้าหาในระยะประชิด พยายามแสดงให้เห็นว่าไม่กลัวในขณะที่ทุกคนเตรียมประทับปืนยิง ในกรณีที่ต้องฆ่า สุดท้ายสงครามระหว่างลิง กับคนก็เกิดขึ้น เพราะเชษฐาทนกดดันไม่ไหว ทุกคนยิงอย่างไม่ยั้ง ปืนหลุด พรานก็ใช้มีดประจำตัวป้องกันตัว ในที่สุดก็สามารถหยุดการโจมตีของลิงได้ แต่มีบางส่วนที่บาดเจ็บไปไม่ไหว แต่ตะกายไปหลบเงียบ ๆ อยู่บนต้นไม้สูง ซึ่งพอจับหลักนี้ได้ ชาวคณะนักแม่นปืนก็ช่วยกันยิงเก็บได้อีกหลายตัว ทีนี้มีเรื่อยๆ ที่รพินทร์ต้องแยกจากคณะเพื่อออกตรวจพื้นที่ ทุกครั้งดารินจะเริ่มเป็นห่วงพรานมากขึ้น เหมือนกับไม่อุ่นใจถ้าพรานไม่อยู่ด้วย บางคืนรพินทร์เห็นดารินนอนไม่หลับเดินกลางคืนกับแงซายสองคน ตามไปดูได้ความว่าไม่ชอบเสียงร้องของสัตว์บางอย่าง เลยจะออกมายิงทิ้ง แต่พอเห็นตัวก็เลยต้องทำตามที่รพินทร์ว่าคืออย่าไปสนใจ ให้หาอะไรทำดีกว่าเดินมืด ๆ ส่องไฟไปยิงตัวที่ทำให้เกิดเสียงน่ารำคาญนั้น
คณะค้นพบอีกอย่างว่า ดูเหมือนเจ้าแหว่งจะนำพาให้คณะพบกับสิ่งประหลาด ล่าสุดก็มีมหิงสาอีกตัวที่วนไป วนมา กับชาวคณะ จนรพินทร์ตัดสินใจเก็บมหิงสาก่อนเก็บเจ้าแหว่ง
ช่วงหลังนี้ถ้าดารินนอนไม่หลับ มักจะออกมาคุยกับรพินทร์ทำให้สนิทกันมากขึ้น
คืนนี้หลังจากเข้านอนกันแล้ว โขมดดงก็เข้ามา รพินทร์เห็นแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เสียงปืนดังขึ้นคราวนี้เป็นฝีมือแงซาย ปลุกทุกคน ให้ตื่นขึ้นและออกตามจับโขมดดง จนไปจนมุมอยู่ในโพรงหิน ที่ดูเหมือนว่ามีหินสีหลากสี สวยงามมาก ตัวโขมดดงมีลักษณะคล้ายแมงมุมตัวใหญ่ยักษ์ มีปีกเหมือนค้างคาง ตาแดงเป็นทับทิม เรียบร้อยทีนี้พอดีใกล้แหล่งน้ำ รพินทร์เลยยอมให้พัก และอาบน้ำกันได้ ดารินเป็นคนแรกที่อาบน้ำโดยมีรพินทร์ไปเฝ้า ดารินเผลอหลับไปขณะที่งูเห่าดงเข้ามาใกล้ รพินทร์เห็นเข้าก็ระเบิดกระสุนใส่ ช่วยชีวิตดารินได้อีกครั้งสักครู่คู่ของงูโผล่มาอีก คราวนี้เป็นจังหวะยิงของดาริน หมดวันเดินทางต่อ ถึงห้วยยายทองก็ผจญกับเจ้ามหิงาอีกครั้ง ที่นี่ดารินยืมที่โกนหนวดไฟฟ้าของเชษฐามาให้รพินทร์ใช้ เพื่อให้ดูดีขึ้นหน่อย วันนี้ตามรอยมหิงสา ที่เดินถอยหลังเข้าธารน้ำ และเข้าชาร์จรพินทร์กับเกิด แต่ดารินที่เดินลุยไปอีกฝั่งสามารถสังหารเจ้ามหิงสาได้อย่าแงซาย ๆ เย็นวันนั้นเชษฐาไปเป็นเพื่อนดารินอาบน้ำ จนไชยยันต์ที่นั่งอยู่กับรพินทร์เปรยว่าน่าจะพาแฟนมาด้วยจะได้ไม่ต้องกวนให้คนอื่นไปเฝ้า รพินทร์ได้ทีตัดใจถามว่าดารินไม่มีแฟนเหรอและบอกว่าเขากับดารินสนิทกันมาก แต่รักอย่างน้องสาวแต่งงานกันไม่ได้แน่นอน ภัยต่อมาเป็นสงครามหมาไนหลายร้อยตัวที่มากินซากสัตว์ที่ชาวคณะทิ้งไว้ แต่ก่อนอื่นปรากฏว่าน้ำป่าไหลมาก่อนแล้ว รพินทร์คืนสติมาพร้อมกับเห็นดารินเขย่า เขาอยู่ ก็เป็นอันว่าสองคนหลงป่าอยู่ด้วยกัน นาฬิกาของรพินทร์ไม่เดินเสียแล้ว ดารินแกล้งจะให้ถอดโยนทิ้งและสัญญาว่าจะให้นาฬิกาใจ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร หลงป่าคราวนั้นดารินเรียนรู้สิ่งที่จะต้องมีติดตัวเพื่อการยังชีพในป่ากรณีที่เกิดการหลงป่ากับผู้อื่น ระหว่างการหลงป่าด้วยกันดารินเห็นกองทัพหมาต่อสู้กับกองทัพหมูป่า ระหว่างทางได้ยินเสียงคนตัดไม้ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นพวกกะเหรี่ยงออกมาตัดไม้และจริงๆ ด้วย แต่ว่าพวกนี้โดดเสือแม่ลูกอ่อนฆ่าตาย ในขณะที่รพินทร์ก็ยิงลูกอ่อนของเสือเพราะดารินไปอุ้มทำให้มีกลิ่นตัวติด รพินทร์จึงต้องตัดสินใจยิงลูกเสือให้ตาย อาถรพินทร์พ์ป่ามาอีกครั้งคราวนี้ ระหว่างหลบเสือดารินเห็นคนขี่เสือมา ซึ่งมันคือปีศาจของกะเหรี่ยงที่ถูกเสือฆ่า นำทางมาบอกว่าพวกนี้ไงที่เป็นคนฆ่าลูกเสือไม่ใช่พวกเขา สุดท้ายรพินทร์ก็ฆ่าเสือได้สำเร็จปลอดภัยต่ออีกครั้ง หลงป่ารอบนี้รพินทร์โชคดีได้นอนหนุนตักดารินหลับไปอย่างมีความสุข แต่ขณะที่รพินทร์หลับดารินก็เจออาถรรพณ์ป่าอีก คราวนี้เห็นรพินทร์เป็นปีศาจ และได้ยินเสียง มโหรี ซึ่งกลายเป็นว่าเจ้าป่ามาอวยชัยให้โชคกับดาริน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น