วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ทริป Sand Dune บางเบิด

วันหยุดต่อเนื่อง ออกเที่ยวได้แล้ว เป้าหมายคือ Sand Dune เมืองไทย แต่สถานีแรกของพวกเราอยู่ที่อุทยานแห่งชาติวนกร ที่เด็ก ๆ คุยกับคุณพ่อว่าน่าไปกางเต็นท์นอนกัน สืบราคามาแล้ว บ้านพักที่นี่อยู่ที่ราคา 2,000 -2,500 แพงไปสำหรับ สองคน หาดทรายพอไหว แต่ไกลไปอีกนิด ทุ่งวัวแล่น โอกว่า

หาดวนกร ที่บางคนบอกว่าคือเกาะนามิเมืองไทย ใช่เลยเห็นด้วย (นิด ๆ ) เฉพาะทิวสนนะ


หาดทรายที่นี่ไม่เลวที่เดียว

ติดต่อได้ว่ามี speed boat พาไปเที่ยวเกาะ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน แต่สำหรับสองคน แพงไป 2500 ที่ต้องเหมา เลยไม่ได้ไป อีกอย่าง ไม่อยากไปกันด้วย มีเป้าหมายชัดกว่านี้แล้ว จากหาดด้านนี้ ก็ขยับรถไปอีกด้านนึง ด้านนี้มีบ้านพักด้วย แต่เล่นน้ำไม่ได้เพราะหาดเป็นหาดหิน

จากที่นี่ สถานีต่อไปคืออุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง ที่เจ้าหน้าที่แนะนำไว้ เราก็ไปกัน
ระหว่างทางขึ้นน้ำตก ก็เจอหินพิงกันแบบนี้แล้ว

ขนาดเราเจอฝนระหว่างทางตอนออกจากกรุงเทพ แต่ทางเดินขึ้นน้ำตกไม่แฉะมากเลย สบายมาก

เริ่มเห็นน้ำตกแล้ว

ระหว่างทางไปน้ำตกชั้น 3 มีโต๊ะนั่งพักสำหรับนักท่องเที่ยว เขียวมากเลย ไม่เคยหินมาก่อน

นี่บริเวณเหนือน้ำตกชั้นสอง

แล้วก็ชั้นสาม เห็นลิบ ๆ โน่น

จะไปต่อชั้นสี่ ต้องเดินผ่านหน้าน้ำตก คนกลัวความสูงไปไม่ได้ ต้องเดินเลี้ยงตัว

ผ่านน้ำตกชั้นสาม ไต่บันไดหินเล็ก ๆ ไปอีกนิดถึงน้ำตกชั้นสี่ แต่หาน้ำตกไม่เจอ เจอแต่แอ่งน้ำ กับแมลงสวยงามมากตัวนี้
สถานีต่อไปคือน้ำตกชั้นห้า ระหว่างทางจะเห็นว่านนกคุ้มออกดอกกันเต็มไปหมด
อันนี้ถึงแล้วน้ำตกชั้นห้า ที่เป็นที่มาของลักษณะน้ำขัง ทำให้น้ำใส แต่ไม่สะอาด แม้ว่าจะเป็นฤดูฝนแล้วก็ตาม

สถานีต่อไปตามที่คุณนายบอกคือวนอุทยานเขาหินเทิน แต่ขออภัย เลยป้ายยูเทิร์น ป้ายยูฯ ถัดไปก็ไกลมาก เลยขอผลัดเป็นขากลับแล้วกัน หินเทินที่นี่ ถ้าไม่ได้แวะไปเสียดายแย่เลย

เลยเขาหินเทินแล้ว ที่นี้เจอทางเข้าอ่าว หรือหาดที่ไหนเริ่มเลี้ยวรถเข้าไปแล้ว ตามวัตถุประสงค์ของทริปเลียบหาดประจวบ ชุมพร แล้วก็ได้สะพานปลาอันนี้มา


แวะไปหาดบางเบิด เริ่มมองหาที่พัก กับ Sand Dune ถามชาวบ้านว่า Sand Dune ก็เกรงว่าจะไม่เข้าใจ ไปถามหาเนินทรายสวย ๆ ชาวบ้านเข้าใจว่าเราจะไปเนินทรายงานรีสอร์ท แป๋ว.....เลยกลายเป็นขับรถวนเล่นซะงั้น จนไปเจอชาวบ้านอีกด้านนึงของบางเบิดบอกทางให้ เลยย้อนทับเส้นทางเดิม

แวะกินกลางวันกันที่หาดบ้านกรูด อร่อยมาก ซู้ดดด คิดถึงอาหารอร่อย ๆ นะ แต่ต้อง Take away รับฯ ไม่หมด

ในที่สุดหลังจากที่แวะถามทางอีกครั้งเพราะเกรงว่าจะหลง เพราะไม่มีวี่แววเลยว่าจะไปถูก เราก็มาถึง
หนึ่งในสยาม เนินทรายงานที่ชุมพร   แย่ไปนิด มัวแต่ถ่ายตัวเองซะสนุกเลยไม่ค่อยมีวิวให้เห็นเนินทรายเท่าไร (จากหาดบางเบิด ขับไปตามถนน ไปเรื่อย ๆ ผ่านโรงเรียนบางเบิด เลี้ยวซ้ายแรกไปตามถนน พอถึงโค้งให้ชลอรถ เพราะป้ายเนินทรายงานนี่อยู่ทางโค้งพอดี ไม่งั้นเลย แถมป้ายสีไม่สดใส ต้องถอยรถกลับมาซะงั้น)


ที่นี่ ต้นไม้เยอะไป ไม่เหมือนที่เวียตนาม เอามาเปรียบเทียบกันนิดนึง ต่างกันเยอะมากไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ไปเห็น เห็นคนท้องที่เล่าว่าตอนที่มีเกย์ ทรายพัดเข้ามาเยอะมาก ตอนที่ไปมุยเน่ เราถึงรู้ว่าที่ชุมพรก็มีเนินทราย ถึงได้เกิดทริปนี้ขึ้นมา
ทะเลที่เนินทรายนี่ สวย สวยมาก แต่เปลี่ยว ไม่มีคนเลย

เที่ยวที่นี่เสร็จ หาทางลงตรงไหนก็ได้ ลงหน้าหาดก็ต้องไต่ขึ้นใหม่ อยู่ดี สรุปเป็นลุยขึ้น เพื่อหาทางลงฝั่งถนน แล้วเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดทิ้งไว้หน้าป้ายเนินทรายงาม
ว่าแล้วก็ต้องหาที่พักแล้วที่นี่ ที่ดูไว้ก็ที่บางเบิดรีสอร์ท แต่ขออภัย เต็มแล้ว หาต่อไป วิ่งไปข้างหน้า หาเกียร์ถอยไม่ได้ (ยกเว้นขับรถเลยที่เที่ยวต้องถอยกลับ)  เป้าหมายคือหาดทุ่งวัวแล่น ระหว่างทาง รถไต่ขึ้นเนิน ต้องเกียร์ถอยหลังหาที่ถ่ายรูป เพราะสวยมากอย่างนี้

โชคดีมาก ๆ ได้ที่พักที่วิวรีสอร์ท แทบจะเป็นเจ้าแรกของหาดทุ่งวัวแล่น  แนะนำเลยใครจะไปทุ่งวัวแล่น ราคาไม่แพงมาก ห้องพักติดทะเล ออกมาอ่านหนังสือเล่นตอนค่ำ ๆ ลมทะเลพัดเข้ามาหน้าห้องพักเลย
เช้ามาออกไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นไป ระหว่างฟ้าเปลี่ยนสีก็ล้างรถไปพลาง จนตุ่มตามขาที่ได้มาเกือบสิบตุ่ม ไม่รู้ว่าเป็นยุงกัด ระหว่างเช็ดรถ หรือตัวปึ่ง ที่เค้าว่าอยู่ชายทะเล กัดแล้ว จะมีอาการแพ้ ตุ่มขึ้น

ระหว่างทางเจอคุณสุฯ เล่นน้ำกัน น่ารักเชียว หาโหมดพระอาทิตย์ขึ้นไม่เจอ ภาพเลยออกมาเป็นแบบนี้
เล่นน้ำกัน เราได้อุปกรณ์เล่นน้ำแบบใหม่ ที่ไม่เคยใช้เล่นน้ำทะเลที่ไหนมาก่อน ไม่กล้าบอกใคร แต่เล่นน้ำได้แล้วกัน ลอยตัวได้ดี
วันนี้ออกจากที่พักสายยยมาก สถานีแรกคือเขาถ้ำพลู ที่อ่านเจอจากหนังสือท่องเที่ยวว่ามีน้ำลอดด้วย ต้องไป





ดอกหญ้าที่นี่สวยมาก ม่วงเข้มเชียว

เจอพระใจดี พาไปดูบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นหนึ่งในบ่อน้ำที่ใช้ในพระราชพิธีสำคัญของประเทศด้วย ภายในโถงถ้ำ ที่ไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติม ธรรมชาติสรรสร้างท้งนั้น ยอดมากเลย ที่มีโอกาสได้เข้าไปชม ถ้าไม่เจอพระคุณเจ้าพาไป เราคงไม่กล้าเข้าไป เพราะหน้าถ้ำเขียนแต่ว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นบุญตาจริง ๆ 

เหนือบ่อน้ำจะเห็นหินงอก เป็นรูปฟันจรเข้


ปรากฎว่าพระคุณเจ้าแนะนำว่าถ้ำน้ำลอดที่ว่า ไม่ใช่ที่เขาพลูนี้ แต่อยู่ที่สำนักสงฆ์น้ำลอด ไปด้อม ๆ มอง ๆ เห็นน้ำใส ๆ อยู่ด้านล่างของสำนักสงฆ์ฯ ไม่แน่ใจว่านี่เป็นน้ำลอดหรือเปล่า

น้ำใส เขียวสวยยย เดินลัดเลาะเข้าไปในสำนักสงฆ์ ไม่กล้าเปิดไฟ อาศัย Flash ได้มาแบบนี้ เป็นน้ำที่ลอดลงมาจากภูเขาหิน มารวมอยู่ในบ่อ แต่สำนักสงฆ์ฯ มาตั้งปิดบ่อน้ำไว้พอดี
สถานีต่อไป จะไปหาดทรายรี ที่เลาะริมทะเลไป แต่ถนนไม่พาไป ต้องวิ่งห่างจากฝั่งทะเล แถมหาป้ายหาดทรายรีไม่เจอ หลงไปคนละด้านกับหาดทรายรี ดีที่ระหว่างกินกลางวันที่ชุมพร คนขายอาหารบอกว่าเราต้องไปอีกทางถึงจะไปหาดทรายรี เลยต้องวนกลับเส้นทางเดิมไปอีก ไปอีกตั้งไกล ดูในแผนที่ท่องเที่ยวดูอยู่ใกล้ ๆ กับทุ่งวัวแล่น ระหว่างทางมีทางแวะไปจุดชมวิวเขามัทรี แวะไปดู ไม่เลวเห็นปากน้ำชุมพรด้วย



ได้รูปที่เห็นหาดโค้ง ๆ  แล้วชอบจัง ดูสวยดี

ที่นี่ แยกกันหาจุดถ่ายรูป ปรากฎว่าต้องเดินขึ้นไปเนินเขา เราไม่กล้าขับรถขึ้น ทางแคบและชัน แต่เห็นหนุ่ม ๆ เอาปิคอัพขึ้นไป เราไม่กล้า กลัวมีรถสวนลงมายุ่งเลย
สถานีต่อไปหาดภราดรภาพ ที่หนังสือสามเล่ม มีบอกไว้เล่มเดียว แต่หาเจอแล้วกัน หาดที่นี่เป็นหินสีแดง


จากนี่ เห็นป้าย...กรมหลวงชุมพร แวะไป เจอพื้นที่ทำหัวเรือรบพระร่วง ได้รูปนี้มา





สถานีต่อไปหาดทรายรี เป้าหมายที่อุตส่าห์ไป ที่เห็นแถมมาทั้งนั้น



น้ำที่นี่ใสสสสส ไม่รู้ว่าจะไปเทียบกับอะไร

หาดนี้ไม่รู้ชื่อไร ทางใต้ หาป้ายชื่อยากไปหน่อย จำได้ว่าอยู่ทางซ้ายมือก่อนทางเข้าอุทยานแห่งชาติ ชุมพร หาดสวยไม่เลว มีคนไปปิคนิคกันสองสามกลุ่ม
ว่าแล้วก็เข้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรกัน นิสัยไม่ดี เพราะคิดว่าไม่ได้จะไปเกาะ ขอไป stamp ตราอุทยานฯ แล้วจะแวะกินกาแฟ แต่ปรากฎว่าพอผ่านด่านฯ เห็นทางเดินป่าชายเลน ไม่เลว เลยแวะไปเดินเล่น แนะนำแวะไปเที่ยวแบบตั้งใจ มีคนพายเรือเล่นด้วย แต่น่าจะหาเวลาแดดร่ม ลมตก สักหน่อยจะแจ๋วมากเลย


สถานีต่อไป ที่ตั้งใจไว้คือพระธาตุสวี จะได้แวะไปไหว้พระธาตุ แต่อีกครั้ง U tern ไม่ทัน เลยไปเที่ยวหาดรีสวีก่อน เข้าไปไม่ลึก แต่รู้สึกใช้เวลาวิ่งรถนานทีเดียว



มีอีกหาด ที่ตามแผนที่ท่องเที่ยวดูว่าอยู่ไม่ไกล แต่หาทางไปไม่ได้ ถามชาวบ้านก็บอกว่าเราเลยมาไกลแล้ว เลยหันหัวรถกลับไม่ไปแล้ว ได้แวะไหว้พระธาตุตามที่ตั้งใจด้วย


หมดเวลาเที่ยวแล้ว หาที่พักไม่ได้อีกครั้ง ที่เดิมที่วิวรีสอร์ท ที่ทุ่งวัวแล่นก็เต็ม ดีที่มีหนังสือ Big Map ได้มาจากร้านปลาทูที่หาดบ้านกรูด เลยโทรไปหาที่พักได้ ใกล้กรุงเทพเข้าไปอีก เลยเหยียบอย่างเดียว จากสวีถึงบ้านกรูด ใช้เวลา สองชั่วโมงกว่า เข้าที่พัก หาอาหารกิน ร้านอาหารข้างที่พัก (ลืมไปว่าจะใช้บริการของที่พักที่ริมหาด แต่ปรากฎว่าไม่มีบริการแล้ว) 

เช้ามากินเดินเล่นชายหาดนิดหน่อย สังเกตเห็นว่าน้ำซัดทรายริมฝั่งขึ้นมาเป็นฝุ่นดำ จำได้ว่าครั้งก่อนที่มาไม่ได้เป็นอย่างนี้ แต่ที่หาดทุ่งวัวแล่น ไม่มีอาการแบบนี้เลย เช้านี้ไม่เล่นน้ำ ออกเดินทางกันสาย ๆ ตามเป้าหมาย แวะเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาล้าน   


น้ำตกชั้นสอง

มองเห็นสูง ๆ คืนน้ำตกชั้นที่ห้า ชั้นสูงสุด ที่คุณน้า เดินไปสำรวจแล้วบอกว่าเป็นเขาคนละลูกกับที่เราเดินขึ้น สรุปว่าไปต่อไม่ได้ มองไปดี ๆ จะเห็นประมาณกลางน้ำตกคือป้ายแสดงน้ำตกชั้นที่สี่ ส่วนจุดที่เรายืนถ่ายรูปเป็นน้ำตกชั้นสาม

ชอบไม้ป่าที่มียอดผลิสีแดงแบบนี้


ขากลับ เราเป็นพนักงานนั่งถ่ายรูป ได้รูปสวนมะพร้าว ระหว่างทางขาออกจากน้ำตกเขาล้าน

พื้นที่น้ำตกที่เป็นแผ่นหิน ทางพื้นที่เกรงว่านักท่องเที่ยวจะหลง ทำลูกศรชี้แบบนี้ก็ไม่หลงไม่เหมือนที่ผาชนะได พอเห็นผลาญหิน หลงทางเลย ไปไม่เป็น ว่าจะทำข้อเสนอแนะสักหน่อย

สถานีต่อไป นี่ก็เลย ต้องเลี้ยวรถกลับมา เพราะเอะใจว่าจะออกถนนใหญ่แล้ว หินที่เห็นตามรายทางไกล ๆ ว่าเหมือนหินเทินก็เริ่มหายไป เห็นชาวบ้านคุยกันอยู่เลยแนะนำให้ถอยหลังกลับไป

Land Scape ที่ประหลาดอีกแห่ง ที่ด่านสิงขร ไม่มีบรรยากาศแบบนี้ ใครผ่านไปด่านสิงขร แนะนำให้แวะไป จัดว่าเป็น Unseen ของไทยได้เลย เพราะไม่รู้ว่าหินมาจากไหน แต่อิเหละ เขละ ขละมากเลย



ท่านี้ ต้องเตะอยู่หลายครั้งกว่าจะได้ที่

ช่องแคบ เห็นอีกแห่งก็ที่เขาจันทร์งาม สระบุรีไง







หมดเวลาเที่ยวแล้ว  ที่เหลือแวะจ่ายตลาดแม่กลอง เข้าบ้าน Happy มากกับทริปนี้ ให้ *****




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น