แต่อย่างไรก็ดีไชยยันต์ ดาริน เข้าไปช่วยได้ ในขณะที่เจ้าเกอะก็เข้าไปด้วยและสังหารหมอผีตายคามือ แต่เจ้าเกอะก็ตายด้วยในคราวนั้น ตอนนี้มาเรียเป็นอิสระแล้วสวมวิญญาณนางเสือร้ายกว่าดาริน ฆ่าสางเขียวตายราวกับใบไม้ร่วงเพราะมีความเร็วในการบรรจุลูกปืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนหลังยังได้แนะนำคนอื่น ๆ ให้ยิงได้เร็ว และต่อเนื่องเหมือนเธออีกด้วย ด้านรพินทร์กับแงซายรับผิดชอบเรื่องการระเบิดหมู่บ้าน พอตั้งหลักได้หลังจากช่วยเจ้าคะหยิ่น และล้มกลิ้งกันไปแล้ว ก็ลงมือยิงธนูระเบิด ทำลายเทวรูปอินคา และเริ่มหนีกลับ การเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบากเพราะเมืองที่มนุษย์กินคนอยู่ ต้องไต่สะพานลิงไปช่วย ซึ่งจะทำให้ฝ่ายศัตรูเห็นทำให้รพินทร์ต้องพาคณะ ไต่หน้าผาขึ้นไปช่วย จนถล่มด้วยระเบิดเมืองราบเป็นหน้ากลอง แต่ตัวลูกของมนุษย์กินคน ที่รพินทร์จับได้ และหนีไปได้เพราะความประมาทของลูกทีม มาดักโจมตีตอนที่พวกรพินทร์จะกลับออกจากเขา ทุกคนซมซานหนีไปได้หมด ยกเว้นรพินทร์กับดารินที่ยังไม่สามารถข้ามไปได้ และข้ามไปไม่ได้ ที่เชิงเขานั่นเอง เจ้าตัวลูกคนป่าปล่อยหมาในที่เลี้ยงไว้ให้มาโจมตีรพินทร์ แต่ทั้งสองคนก็สามารถต้านไว้ได้ โดยความช่วยเหลือนำทางของวิญญาณผีตองเหลืองที่มาช่วยไว้ได้ แต่ปรากฏว่ารพินทร์เป็นไข้มาลาเลียกำเริบ แต่อยู่ในความดูแลของดารินแม้ว่าไข้ขึ้น แต่รพินทร์ก็พยายามช่วยดารินเท่าที่จะทำได้ นอกจากตอนที่ไม่รู้ตัวจริง ๆ ตอนนั้นวิญญาณนางเที๊ยะมาช่วยเตือนอันตรายทำให้ดารินสามารถฆ่าสางเขียวที่พยายามจะบุกเข้ามาทำร้ายตายเกือบหมด เหลือแต่เจ้าลูในสภาพแสนทุเรศ ที่ดารินมัวแต่ตะลึงจนเจ้าลูคว่ำไปด้วยปืนในมือของรพินทร์ที่ฟื้นไข้ขึ้นมาช่วยได้ทัน ดารินดีใจ ทั้งสองอยู่ในวงแขนของกันและกัน จนรู้สึกถึงฐานะ และภาวะจึงแยกจากกัน และเตรียมตัวสู้เพื่อเอาตัวรอดกลับไปพบทีม ระหว่างรอทีมดารินอดไม่ได้ถามเรื่องที่สงสัยตลอดมาคือความสัมพันธ์ระหว่างรพินทร์กับมาเรีย เพราะคืนหนึ่งหล่อนเห็นมาเรียกับรพินทร์อยู่ด้วยกัน เหมือนมีการยื้อยุดฉุดกระชากอะไรกัน ซึ่งรพินทร์เล่าให้ฟังว่าคืนนั้นมาเรียคุยอยู่กับแงซายก่อน และพอเขาเข้าไป เป็นจังหวะที่มาเรียต้องการคุยส่วนตัวกับเขา คือโกหกดารินว่ามาเรียดูถูกเรื่องการรับจ้างคณะเชษฐา แต่ไม่รับจ้าง ดร.ฮอฟมัน แต่จริง แล้วมาเรียหาว่ารพินทร์ได้กับดารินแล้ว ดารินไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก ได้แต่บอกว่าตอนนี้มาเรียเป็นอิสระแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร ข้างฝ่ายเชษฐาหลังจากข้ามมาได้แล้ว และพบว่าสะพานไหม้หมดเป็นเหตุให้รพินทร์กับดารินติดอยู่อีกฝั่ง อีกทั้งไชยยันต์เองก็ร้อนใจอยากกลับไปช่วยพวกที่ยังข้ามมาไม่ได้ คืนนั้นแวซาย กับพวกพรานก็ไต่เขากับมาอีกฝั่ง ซุ่มรอถล่มใกล้หมู่บ้านและเมื่อมองเห็นกันได้ ระหว่างที่ซูซูระดมพลอยู่ที่ลานนั้นเอง แงซายก็ซัดด้วยธนูระเบิด ซูซูแยกร่างหาซากไม่เจอ อวสานของสางเขียวก็จบลงในขณะทีสามารถตามหารพินทร์กับดารินได้
ระหว่างการเดินทางกลับค่าย ไชยยันต์ให้เสื้อแจ๊กเก็ตมาเรีย รพินทร์ให้รองเท้า ตาคำโดนปล้นถอดกางเกงให้มาเรีย ที่ค่ายพักมาเรียขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือและขอโทษรพินทร์ที่ไม่เชื่อฟังจนเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงแทบเอาชีวิตไม่รอด คณะเชษฐา ชวนมาเรียให้ไปด้วยกันเพราะเป็นห่วงว่าจะมีอันตรายระหว่างทางกับเจ้าส่างปา สุดท้ายมาเรียเข้าใจเจตนาของทุกคนจึงตัดสินใจไปกับคณะเชษฐาโดยมีเจ้าส่างปาตามไปด้วย ดารินมีเพื่อนผู้หญิงแล้ว เชษฐาก็รักมาเรียแหมือนน้องสาว ส่วนไชยยันต์ก็ชอบ ๆ มาเรียอยู่ พอแงซายรู้ว่ามาเรียจะมาร่วมขบวนด้วยก็แสดงความเป็นห่วงรพินทร์เพราะรู้ว่าผู้หญิงจะทำเรื่องยุ่งมาให้ แต่รพินทร์ปฏิเสธความต้องการนายจ้างไม่ได้ ไปก็ไปด้วยกัน เขารู้ดีว่าเขาต้องระวังตัวให้มาก ไม่นานมาเรียก็จับสัญญาณได้ว่ารพินทร์หลงรักดารินเข้าแล้ว และก็รู้ว่าดารินเองก็รักรพินทร์เช่นกัน เพราะมีสมาชิกเพิ่มเลยมีการปรับอาวุธกันใหม่ระหว่างการลองปืน แงซายใช้ต้นตะเคียนเป็นเป้า เลยกลายเป็นเรื่องเพราะเท่ากับเป็นการลบหลู่นางไม้ ดารินเป็นคนที่มีจิตอ่อนสุดถูกนางตะเคียนสะกดไป รพินทร์กับเชษฐาต้องทำพิธีขอสมาลาโทษต่อนางตะเคียนเหตุการณ์ร้ายถึงยุติลงได้ ทั้งๆ ที่ก่อนเกิดเหตุร้ายตาคำแนะนำแล้วให้บอกเชษฐามาขอสมา แต่รพินทร์กลัวว่าเจ้านายที่มีการศึกษาจะเห็นเป็นเรื่องเหลวไหลเลยไม่ได้ทำอะไร จนเป็นเรื่องดังกล่าว
B9 รพินทร์ทักว่ามาเรียสวยขึ้นหลังจากที่ตัดผมสั้นเหมือนดาริน อาหารมื้อค่ำวันนั้นเหมือนดารินเป็นลมวูบไป ตาคำเตือนรพินทร์ว่าทำไมไม่จัดเวรยาม คืนนี้แปลก ๆ แต่รพินทร์ยืนยันให้ทุกคนพักผ่อน กลางดึกคืนนั้นลูกหาบทุกคนผลัดกันตื่นเพราะฝันร้ายเห็นเสือบ้าง เห็นงูใหญ่บ้าง ส่วนแงซายเองเห็นนางตะเคียน กับกองทัพผีมากันเต็มแค้มป์ เลยขออนุญาตรพินทร์ไปหานางตะเคียน แต่รพินทร์ไม่ยอมให้ออกนอกพื้นที่ จนเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ลมแรงพัดถอนต้นไม้ใหญ่ เสียงกรีดร้อง รพินทร์ต้องเอาเครื่องรางของขลังที่หนานไพรเคยให้ไว้มาทำพิธี แล้วยิงสวนไป เหตุการณ์สงบลงได้ และทุกคนก็เริ่มรู้สึกว่าดารินหายไป ตามรอยได้ว่าไปอยู่ที่ต้นตะเคียนแต่สวยกว่าดาริน สั่งให้นายใหญ่ขอขมา และให้แงซายหลั่งเลือดสามหยดลงปฐพีสังเวยผี หลังจากที่ชาวคณะทำตามที่นางตะเคียนบอกแล้ว ก็คืนดารินให้คณะ เหตการณ์ปกติอีกครั้งหนึ่ง ในการเดินทางต่อไปค่อนข้างลำบาก ไชยยันต์ช่วยมาเรียจนตัวเองหัวแตก แต่เหตุการณ์ก็ผ่านไปได้อีก ตอนนี้ถึงทุ่งมรณะ (ตามที่มังมหานรธาระบุไว้ในแผนที่) ระหว่างการเดินทางไชยยันต์มีแผนที่ภูมิศาสตร์ รพินทร์มีแผนที่โบราณของมังมหานรธา และคำแปลจากเพื่อนพม่า หารือกันแล้วก็ได้ทางออกว่าจะไปกันต่ออย่างไร พักค่ายรอบนี้ส่างปากับคะหยิ่นวิ่งหน้าตาตื่นออกมาบอกว่าเจองูมหายักษ์ตัวขนาดเข้าไปที่หล่มช้าง ชาวคณะมาดู ปรากฏว่าเป็นแค่คราบของงูที่ลอกทิ้งไว้เท่านั้น ช่วงนี้อาหารเริ่มน้อยลง แหล่งน้ำหายาก ถึงหาไม่พบ ดารินเริ่มกินค่างเพราะไม่มีอะไรจะกิน ตอนนี้ใครมีความสามารถมีประสบการณ์ทางไหนงัดออกมาใช้กันหมด เพราะภาชนะที่ต้ม ก็คือกระบอกไม้ไผ่ดี ๆ นี่เอง การเดินทางลำบากเรื่อย ๆ ที่ค่ายพักวันนี้พอเข้าพักได้ มาเรียบอกว่าจะไปหาอาหารไปกับส่างปา รพินทร์ไปกับตาคำ เดินทับรอยกันไปก่อน แล้วปรากฏว่ามาเรียไปปะทะกับเจ้ากระทิง แต่สุดท้ายมาเรียก็สามารถดับชีวิตเจ้ากระทิงดุได้สำเร็จ คืนที่มาเรียร่วมพักแรมด้วยก็มีเรื่องประหลาดที่เชษฐากับรพินทร์ทำเป็นมองไม่เห็นเสียคือมาเรียนอนให้ส่างปานวด คลึง ดารินทนไม่ไหวเดินไปบอกว่าไม่เหมาะสมแต่มาเรียบอกว่าส่างปามีปัญหาพิการทางเพศไม่ได้คิดอะไร และคิดว่ามาเรียเป็นเหมือนแม่เขา ขณะเดียวกันมาเรียก็ย้อนถามดารินว่าผู้หญิงคนเดียวผู้ชายตั้งเป็นสิบไม่มีปัญหาบ้างเหรอ สำหรับรพินทร์ดารินบอกว่าเป็นสุภาพบุรุษทั้งกายและใจ ในขณะที่มาเรียยิ้มเยาะบอกว่าไม่เคยเจอโดนปล้ำจูบแบบเธอเหรอ ดารินคิดว่าถึงจะเคยก็ไม่บอก แต่คิดว่ามาเรียตอแหลอยู่ในใจ เพราะไว้ใจรพินทร์มากกว่าสิ่งที่รับรู้จากมาเรีย แต่ก็ไม่พอใจมาเรียเท่าไรนัก ดารินเข้านอนแบบอารมณ์ไม่ดี ในขณะที่คืนนั้นขณะที่รพินทร์เดินตรวจความเรียบร้อยอยู่ในที่พัก ก็มาเตือนมาเรียให้เข้านอนได้แล้ว แต่มาเรียถือโอกาสเล่าเรื่องที่คุยกับดารินตอนกลางวันให้รพินทร์ฟัง รพินทร์เลยนึกถึงเรื่องครั้งก่อนได้ว่ามาเรียหนีสามีที่นอนตอนบ่ายไปอาบน้ำ พอดีรพินทร์ไปตรวจสภาพพื้นที่และเห็นเข้า ก็พยายามจะถอยออกมา แต่มาเรียใช้ปืนขู่ให้รพินทร์นำเสื้อผ้าที่เธอถอดกองไว้มาให้ แต่ว่าไม่ทันไรมาเรียก็ผลุดลุกขึ้นยืนประจันหน้าเขา เขารู้สึกตัวว่าลืมตัวไปเพราะไม่เจอผู้หญิงมานาน แต่ก็รู้สึกตัวต่อมาว่าเขาทำผิดทำนองคลองธรรม พอถอดตัวออกมามาเรียคงโกรธสุดขีด ยิงหมวกเขากระเด็น สักพักใหญ่สามีของสาวมาเรียมาพบเข้า มาเรียบอกว่าอาบน้ำอยู่มีงูหลามมา รพินทร์เลยยิงงูก็เท่านั้น หลังจากนั้นรพินทร์ลาออกจากการเป็นพรานนำทางโดยไม่แจ้งเหตุผล มาเรียแยกจากรพินทร์ไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกอย่างรพินทร์ย้ำว่าดารินใจกว้างพอจะไม่มาหยุมหยิมกับเรื่องแบบนี้ มาเรียรู้สึกผิดก็ขอโทษดารินที่ยังนอนไม่หลับ มาเรียหลับไปแล้ว แต่ดารินยังไม่หลับ
ดารินที่ปกติเป็นคนนอนไว้อยู่แล้ว ยิ่งมีมาเรียมานอนด้วยยิ่งตื่นบ่อยขึ้น คืนนี้ก็รู้สึกว่ามีตัวอะไรมาไต่จากเท้าขึ้นมาถึงเข่า ฉายไฟดูก็เห็นตัวประหลาดหน้าเท่าเด็กแต่ผิวหนัวเหี่ยวย่นเหมือนคนแก่ ขนรุงรัง ดารินร้องกรีดสุดเสียง เตะตัวประหลาดกระเด็นออกไป คว้าปืนยิงออกไปอย่างขวัญเสีย ทุกคนตกใจตื่น ตามหารอยก็ไม่พบ มองดารินงง ๆ เพราะดารินบอกว่าตัวเองเห็นจริง ไม่ได้ฝัน แต่มาเรียเห็นรอยที่หนองน้ำ ที่มีร่องรอยว่ายังกระเพื่อมอยู่และมีรอยเท้าเหมือนตีนนก ขณะเดียวกันพวกพรานข้างบนก็โวยวายกันลั่นเพราะโดยเจ้ากองกอยบางกลุ่มยกพวกมาก่อกวน ได้แผลขูดข่วนกันทั่วหน้าแต่ไม่มีพิษ เพราะดารินตรวจเลือดแล้วบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร ดารินให้มาเรียไปหยิบกล่องเวชภัณฑ์แต่มาเรียก็ไปเจอเจ้ากองกอยตัวนึงไส้ทะลักคว้าข้อมือไว้ ตาคำต้องมาคอยตะครุบตัวขณะที่ทุกคนคอยจ้องเผื่อตาคำพลาด และในที่สุดก็พบว่าเจ้ากองกอย ที่มีลูกตาโตเท่าไข่ใครมองจ้องจะมีอาการเหมือนโดนสะกดจิต ไม่เฉพาะแต่รพินทร์ที่รู้สึก มาเรียก็งง ๆ แต่ที่ใครคาดไม่ถึงคือแงซายสามารถสื่อสารด้วยจิต กับสายตาของกองกอยได้ ความว่า อย่าทำเรา ช่วยด้วย รพินทร์หงุดหงิดมากคิดว่าแงซายเล่นตลกอะไร แต่เชษฐาเตือนไว้ ให้ฟังสิ่งที่แงซายแกะรหัส ต่อไป ....เขาเป็นสิ่งที่ไม่ตาย มีการควักไส้ให้ดูด้วย ไม่มีเลือด แผลสมานได้เอง จนดารินเห็นแล้วจะเป็นลม ตรวจก็ไม่พบชีพจร บอกว่าต้องการความช่วยเหลือ โดยให้ไปที่นิทรานคร ที่หาเหตุก่อกวนเพราะต้องการให้ไปช่วยปลดปล่อยพวกเขาพ้นบ่วงกรรม ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่รพินทร์ และเชษฐาได้ยินคือแงซาย พึมพำออกมาว่า มายาวิน คัมภีร์อุบาทว์ พันธุมวดี มันตรัยปุโรหิตพ่อมดร้าย หญิงสาวนอนในโลงใส ใต้โพรงมีกริชปักคัมภีร์.. ทั้งหมดแงซายบอกว่าตัวเองไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ตอนนี้พวกกองกอยมาบุกอีกแล้ว แต่ตัวที่อยู่กับพวกเชษฐา ส่งเสียงร้องบอก พวกที่จะเข้ามาโจมตีก็ถอยกลับไป เช้ามาปรากฏว่ากองกอยหายไปพร้อมกับแงซาย ซึ่งนอกจากนั้นรพินทร์พบที่หลังว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนแผนจากเดิมคือปล่อยเจ้ากองกอยหายไปพร้อมกับแงซายโดยยังตามหาคนหายต่อไป แต่พอพบว่าแงซายเอาแผนที่ไปด้วย รพินทร์โกรธมาก ต้องเปลี่ยนแผนตามที่ดารินขอร้องโดยไม่ตั้งใจ ระหว่างทางจะเห็นร่องรอยแงซาย ไม่งั้นก็มีการหักกิ่งไม้ชี้ทาง คณะหาน้ำไม่ได้ ขุนพลนักรบที่มาสิงร่างแงซายก็มาบอกทางไปหาแหล่งน้ำ มาเรียเคยยิงหินใกล้แงซายแต่แงซายตอนนี้ไม่รู้ตัวเลยเพราะถูกวิญญาณของนักรบเข้าสิง เพื่อพาไปนครแห่งการหลับใหล บางคืนชาวคณะรู้สึกว่าแงซายมาป้วนเปี้ยนใกล้ปางพัก ให้เส่ยกู่ก็ไม่มีเสียงตอบ แต่พอดารินตะโกนเรียกแงซาย กลับมีเสียงหัวเราะฟังน่าขนลุก บางทีมีเสียงตอบกลับมาว่า ต้องไปสู่ความพินาศ... ในนรกดำชาวคณะต้องตกใจอีกครั้งเมื่อพบตะขาบยักษ์ ตัวแรกที่คณะฆ่าได้ ดารินตรวจดูพบว่าไม่มีพิษ แต่อีกตัวที่โผล่เข้ามาและกัดไชยยันต์ถึงตาย พิษร้ายมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น